คำขวัญโรงเรียน : เด่นปัญญา กีฬาเลิศ ประเสริฐคุณธรรม

โทร : 034-561-985  แฟกซ์ : 034-561-476

การบริหารงบประมาณ

 

การบริหารและการจัดการศึกษาของโรงเรียนนิติบุคคล  มีวัตถุประสงค์เพื่อให้โรงเรียนจัดการศึกษาอย่างเป็นอิสระ  คล่องตัว  สามารถบริหารการจัดการศึกษาได้สะดวด  รวดเร็ว  มีประสิทธิภาพแ1ละมีความรับผิดชอบ

โรงเรียนนิติบุคคล  นอกจากมีอำนาจหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ข้างต้นแล้ว  ยังมีอำนาจหน้าที่ตามที่กฏระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการบริหารจัดการและขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ของโรงเรียนขั้นพื้นฐานที่เป็นนิติบุคคลสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา  พ.ศ  2546  ลงวันที่  7  กรกฏาคม  พ.ศ.  2546

กฎหมายการศึกษาแห่งชาติ  และกฎหมายระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ  จึงกำหนดให้โรงเรียนนิติบุคคลมีอำนาจหน้าที่  ดังนี้

  1. ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้แทนนิติบุคคลในกิจการทั่วไปของโรงเรียนที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก

  2. ให้โรงเรียนมีอำนาจปกครอง ดูแล  บำรุง  รักษา  ใช้และจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้  เว้นแต่การจำหน้ายอสังหาริมทรัพย์ที่มีผู้บริจาคให้โรงเรียน  ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน

  3. ให้โรงเรียนจดทะเบียนลิขสิทธิ์หรือดำเนินการทางทะเบียนทรัพย์สินต่างๆ ที่มีผู้อุทิศให้หรือโครงการซื้อ  แลกเปลี่ยนจากรายได้ของสถานศึกษาให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสถานศึกษา

  4. กรณีโรงเรียนดำเนินคณดีเป็นผู้ฟ้องร้องหรือถูกฟ้องร้อง ผู้บริหารจะต้องดำเนินคดีแทนสถานศึกษาหรือถูกฟ้องร่วมกับสถานศึกษา  ถ้าถูกฟ้องโดยมิไดด้อยู่ในการปฏิบัติราชการ  ในกรอบอำนาจ  ผู้บริหารต้องรับผิดชอบเป็นการเฉพาะตัว

  5. โรงเรียนจัดทำงบดุลประจำปีและรายงานสาธารณะทุกสิ้นปีงบประมาณ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

งบประมาณที่สถานศึกษานำมาใช้จ่าย

 

  1. แนวคิด

          การบริหารงานงบประมาณของสถานศึกษามุ่งเน้นความเป็นอิสระ  ในการบริหารจัดการมีความคล่องตัว  โปร่งใส  ตรวจสอบได้  ยึดหลักการบริหารมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์และบริหารงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน  ให้มีการจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สิทของสถานศึกษา  รวมทั้งจัดหารายได้จากบริการมาใช้บริหารจัดการเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา  ส่งผลให้เกิดคุณภาพที่ดีขึ้นต่อผู้เรียน

 

  1. วัตถุประสงค์

เพื่อให้สถานศึกษาบริหารงานด้านงบประมาณมีความเป็นอิสระ  คล่องตัว  โปร่งใสตรวจสอบได้

  • เพื่อให้ได้ผลผลิต ผลลัพธ์เป็นไปตามข้อตกลงการให้บริการ

  • เพื่อให้สถานศึกษาสามารถบริหารจัดการทรัพยากรที่ได้อย่างเพียงพอและประสิทธิภาพ

 

  1. ขอบข่ายภารกิจ

3.1 กฎหมาย  ระเบียบ  และเอกสารที่เกี่ยวข้อง

  1. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542  และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่  2)

  2. พระราชบัญญัติบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.  2546

  3. ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.  2545

  4. หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช  2551

  5. แนวทางการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาและสถานศึกษาตามกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา  พ.ศ.  2550

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

รายจ่ายตามงบประมาณ 

 

จำแนกออกเป็น  2  ลักษณะ

  1. รายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ

  • งบบุคลากร

  • งบดำเนินงาน

  • งบลงทุน

  • งบเงินอุดหนุน

  • งบร่ายจ่ายอื่น

งบบุคลากร  หมายถึง  รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานบุคคลภาครัฐ  ได้แก่รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะเงินเดือน  ค่าจ้างประจำ  ค่าจ้างชั่วคราว  และค่าตอบแทนพนักงานราชการ  รวมถึงราจจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใดในลักษณะราจจ่ายดังกล่า

งบดำเนินงาน  หมายถึง  รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจำ  ได้แก่  รายจ่ายที่จ่ายใน

ลักษณะค่าตอบแทน  ค่าใช้สอย  ค่าวัสดุ  และค่าสาธารณูปโภค  รวมถึงราจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใดในลักษณะรายจ่ายดังกล่าว

          งบลงทุน  หมายถึง  รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการลงทุน  ได้แก่  รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะค่าครุภัณฑ์  ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง  รวมถึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใดในลักษณะรายจ่ายดังกล่าว

งบดำเนินงาน  หมายถึง  รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจำ  ได้แก่  รายจ่ายที่จ่ายใน

ลักษณะค่าตอบแทน  ค่าใช้สอย  ค่าวัสดุ  และค่าสาธารณูปโภค  รวมถึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใดในลักษณะรายจ่ายดังกล่าว

          งบลงทุน  หมายถึง  รายจ่ายที่กำหนให้จ่ายเพื่อการลงทุน  ได้แก่  รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะค่าครุภัณฑ์  ค่าที่ดินและสิ่งก่อนสร้าง  รวมถึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใดในลักษณะรายจ่ายดังกล่าว

          งบเงินอุดหนุน  หมายถึง  รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเป็นค่าบำรุงหรือเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนงานของหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญหรือหน่วยงานของรัฐ  ซึ่งมิใช่ส่วนกลางตาม  พ.ร.บ.  ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน  หน่วยงานในกำกับของรัฐ  องค์การมหาชน  รัฐวิสาหกิจ  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  รวมถึงเงินอุดหนุน  งบพระมหากษัตริย์  เงินอุดหนุนศาสนา      

          งบรายจ่ายอื่น  หมายถึง  รายจ่ายที่ไม่เข้าลักษณะประเภทงบรายจ่ายใดงบรายจ่ายหนึ่ง  หรือรายจ่ายที่สำนักงานงบประมาณกำหนดให้ใช้จ่ายในงบรายจ่ายนี้  เช่น  เงินราชการลับ  เงินค่าปรับ  ที่จ่ายคืนให้แก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง  ฯลฯ

          อัตราเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนต่อปีการศึกษา

                    ระดับก่อนประถมศึกษา                      1,700  บาท

                    ระดับประถมศึกษา                            1,900  บาท

                    ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น                     3,500  บาท

                    ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย                 3,800  บาท

          การจัดสรรเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียน  แบ่งการใช้ตามสัดส่วน  ด้านวิชาการ  :  ด้านบริหารทั่วไป  :  สำรองจ่ายทั้ง  2  ด้านคือ

  1. ด้านวิชาการ  ให้สัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ  60  นำไปใช้ได้ในเรื่อง

    • จัดหาวัสดุและครุภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการเรียนการสอน

    • ซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์

    • การพัฒนาบุคลาการด้านการสอน เช่น ส่งครูเข้าอบรมสัมมนา  ค่าจ้างชั่วคราวของครูปฏิบัติการสอน  ค่าสอนพิเศษ

  2. ด้านบริหารทั่วไป ให้สัดส่วนไม่เกินร้อยละ  30  นำไปใช้ได้ในเรื่อง

    • ค่าวัสดุ ครุภัณฑ์และค่าที่ดิน สิ่งก่อสร้าง  ค่าจ้างชั่วคราวที่ไม่ใช่ปฏิบัติการสอนค่าตอบแทน  ค่าใช้สอย

    • สำรองจ่ายนอกเหนือด้านวิชาการและด้านบริหารทั่วไป ให้สัดส่วนไม่เกินร้อยละ 20  นำไปใช้ในเรื่องงานตามนโยบาย

เงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน

  1. เป็นเงินที่จัดสรรให้แก่สถานศึกษาที่มีนักเรียนยากจน เพื่อจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและเพิ่มโอกาศทางการศึกษา  เป็นการช่วยเหลือนักเรียนนที่ยากจน  ชั้นป.1  ถึง ม.3  ให้มีโอกาสได้รับการศึกาในระดับที่สูงขึ้น (ยกเว้นสถานศึกษาสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ)

  2. นักเรียนยากจน หมายถึง  นักเรียนที่ผู้ปกครองมีรายได้ต่อครัวเรือน  ไม่เกิน  40,000  บาท

  3. แนวการใช้

ให้ใช้ในลักษณะ  ถัวจ่าย  ในรายการต่อไปนี้

    • ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน(ยืมใช้)

    • ค่าเสื้อผ้าและวัสดุเครื่องแต่งกายนักเรียน(แจกจ่าย)

    • ค่าอาหารกลางวัน (วัตถุดิบ จ้างเหมา  เงินสด)

    • ค่าพาหนะในการเดินทาง (เงินสด จ้างเหมา)

    • กรณีจ่ายเป็นเงินสด โรงเรียนแต่งตั้งกรรมการ 3  คน  ร่วมกันจ่ายเงินโดยใช้ใบสำคัญรับเงินเป็นหลักฐาน

    • ระดับประถมศึกษา คนละ 1,000 บาท/ปี

    • ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น คนละ 3,000  บาท/ปี

    • รายจ่ายงบกลาง

  1. เงินสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล/การศึกษาบุตร/เงินช่วยเหลือบุตร

  2. เงินเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ

  3. เงินสำรอง เงินสมทบ  และเงินชดเชยข้าราชการ

  4. เงินสมทบของลูกจ้างประจำ

  5. รายจ่ายงบกลาง หมายถึง  รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อจัดสรรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจโดยทั่วไปใช้จ่ายตามรายการดังต่อไปนี้

  6. “เงินเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ” หมายความว่า  รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อจ่ายเป็นเงินบำนาญ

ข้าราชการ  เงินบำเหน็จลูกจ้างประจำ  เงินทำขวัญข้าราชการและลูกจ้าง  เงินทดแทนข้าราชการวิสามัญ  เงินค่าทดแทนสำหรับผู้ได้รับอันตรายในการรักษาความมั่นคงของประเทศ

เงินช่วยพิเศษข้าราชการบำนาญเสียชีวิต  เงินสงเคราะห์ผู้ประสบภัยเนื่องจากการช่วยเหลือ 

ข้าราชการ  การปฏิบัติงานของชาติหรือการปฏิบัติตามหน้าที่มนุษยธรรม  และเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ

  1. “เงินช่วยเหลือข้าราชการ ลูกจ้าง  และพนักงานของรัฐ”  หมายความว่า  รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อ

จ่ายเป็นเงินสวัสดิการช่วยเหลือในด้านต่างๆ  ให้แก่ข้าราชการ  ลูกจ้าง  และพนักงานของรัฐ  ได้แก่  เงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตร  เงินช่วยเหลือบุตร  และเงินพิเศษในการณีตายในระหว่างรับราชการ

  1. “เงินเลื่อนขั้นเลื่อนอันดับเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ หมายความว่ารายจ่ายที่ตั้งไว้

เพื่อจ่ายเป็นเงินเลื่อนขั้นเลื่อนอันดับเงินเดือนข้าราชการประจำปี  เงินเลื่อนขั้นเลื่อนอันดับเงนเดือนข้าราชการที่ได้รับเลื่อนระดับ  และหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระหว่างปีและเงินปรับวุฒิข้าราชการ

  1. “เงินสำรอง เงินสมทบ  และเงินชดเชยของข้าราชการ”  หมายความว่า  รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อ

จ่ายเป็นเงินสำรอง  เงินสมทบ  และเงินชดเชยที่รัฐบาลนำส่งเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

  1. “เงินสมทบของลูกจ้างประจำ” หมายความว่า  รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อจ่ายเป็นเงินสมทบที่

รัฐบาลนำส่งเข้ากองทุนสำรอง  เลี้ยงชีพลูกจ้างประจำ

  1. “ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนและต้อนรับประมุขต่างประเทศ หมายความว่า 

รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนพระราชภารกิจในการเสด็จพระราชดำเนินภายในประเทศ  และหรือต่างประเทศ  และค่าใช้จ่ายในการต้อนรับประมุขต่างประเทศที่มายาเยือนประเทศไทย

  1. “เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น” หมายความว่า  รายจ่ายที่ตั้งสำรองไว้เพื่อ

จัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

  1. “ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรักษาความมั่นคงของประเทศ” หมายความว่า  รายจ่ายที่ตั้งไว้

เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรักษาความมั่นคงของประเทศ

  1. “เงินราชการลับในการรักษาความมั่นคงของประเทศ” หมายความว่า  รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อ

เบิกจ่ายเป็นเงินราชการลับในการดำเนินงานเพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ

  1. “ค่าใช้จ่ายตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อ

เป็นค่าใช้จ่าในการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

  1. “ค่าใช้จ่ายในการรำษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ”  หมายความว่า 

รายจ่ายที่ตั้งไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ  ลูกจ้างประจำ  และพนักงานของรัฐ

 

 

 

 

 

 

 

 

เงินนอกงบประมาณ

 

  1. เงินรายได้สถานศึกษา

  2. เงินภาษีหัก ณ  ที่จ่าย

  3. เงินลูกเสือ เนตรนารี

  4. เงินยุวกาชาด

  5. เงินประกันสัญญา

  6. เงินบริจาคที่มีวัตถุประสงค์

เงินรายได้สถานศึกษา  หมายถึง  เงินรายได้ตามมาตรา  59  แห่ง  พ.ร.บ.  การศึกษาแห่งชาติ  พ.ศ.  2542  ซึ่งเกิดจาก 

  1. ผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่เป็นราชพัสดุ

  2. ค่าบริการและค่าธรรมเนียม ที่ไม่ขัดหรือแย้งนโยบาย  วัตถุประสงค์และภารกิจหลักของสถานศึกษา

  3. เบี้ยปรับจากการผิดสัญญาลาศึกษาต่อและเบี้ยปรับการผิดสัญญาซื้อทรัพยสินหรือจ้างทำของจากเงินงบประมาณ

  4. ค่าขายแบบรูปรายการ เงินอุดหนุน  อปท.  รวมเงินอาหารกลางวัน

  5. ค่าขายทรัพย์สินที่ได้มาจากเงินงบประมาณ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

งานพัสดุ

 

          “การพัสดุ”  หมายความว่า  การจัดทำเอง  การซื้อ  การจ้าง  การจ้างที่ปรึกษา  การจ้างออกแบบและควบคุมงาน  การแลกเปลี่ยน  การเช่า  การควบคุม  การจำหน่าย  และการดำเนินการอื่นๆ  ที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้

          “พัสดุ”  หมายความว่า  วัสดุ  ครุภัณฑ์  ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง  ที่กำหนดไว้ในหนังสือ  การจำแนกประเภทรายจ่ายตามงบประมาณของสำนักงบประมาณ  หรือการจำแนกประเภทรายจ่าย  ตามสัญญาเงินกู้จากต่างประเทศ

          “การซื้อ”  หมายความว่า  การซื้อพัสุทุกชนิดทั้งที่มีการติดตั้ง  ทดลอง  และบริการที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ  แต่ไม่รวมถึงการจัดหาพัสดุในลักษณะการจ้าง

          “การจ้าง”  ให้หมายความรวมถึง  การจ้างทำของและการับขนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และการจ้างเหมาบริการ  แต่ไม่รวมถึงการจ้างลูกจ้างของส่วนราชการตามระเบียบของกระทรวงการคลัง  การับขนในการเดินทางไปราชการตามกฎหมายว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ  การจ้างที่ปรึกษ  การจ้างออกแบบและควบคุมงาน  และการจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

          ขอบข่ายภารกิจ

  1. กฎหมาย ระเบียบ  และเอกสดารที่เกี่ยวข้อง

  2. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.  2535  และแก้ไขเพิ่มเติม

  3. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.  2549

  4. แนวทางการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์  พ.ศ.  2549

หน้าที่และความรับผิดชอบ

  1. จัดวางระบบและปฏิบัติงานเกี่ยวกับจัดหา การซื้อ  การจ้าง  การเก็บรักษา  และการเบิกพัสดุ  การควบคุม  และการจำหน่ายพัสดุให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง

  2. ควบคุมการเบิกจ่ายเงินตามประเภทเงิน ให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติราชการรายปี

  3. จัดทำทะเบียนที่ดินและสิ่งก่อสร้างทุกประเภทของสถานศึกษา

  4. ประสานงานและวางแผนในการใช้พื้นที่ของสถานศึกษา ให้เป็นไปตามแผนพัฒนาการศึกษา

  5. กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและดำเนินการเกี่ยวกับการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุการใช้และการขอใช้อาคารสถานที่ของสถานศึกษาให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องควบคุมดู ปรับปรุง  ซ่อมแซม  บำรุงรักษาครุภัณฑ์  ให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยต่อการใช้งานและพัฒนาอาคารสถานที่  การอนุรักษ์พลังงาน  การรักษาสภาพแวดล้อม  และระบบสาธารณูปโภคของสถานศึกษาให้เป็นระเบียบและสวยงาม

  6. จัดเวรยามดูแลอาคารสถานที่ของสถานศึกษาให้ปลอดภัยจากโจรภัย อัคคีภัยและภัยอื่นๆ

  7. จัดวางระบบและควบคุมการใช้ยานพาหนะ การเบิกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงการบำรุงรักษาและการพัสดุต่างๆ  ที่เกี่ยวกับยานพาหนะของสถานศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง

  8. ให้คำแนะนำ ชี้แจง  และอำนวยความสะดวกแก่บุคลากรในสถานศึกษาเกี่ยวกับงานในหน้าที่

  9. เก็บรักษาเอกสารและหลักฐานต่างๆ ไว้เพื่อการตรวจสอบและดำเนินการทำลายเอกสารตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง

  10. ประสานงานและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา

  11. เสนอโครงการและรายงานการปฏิบัติงานในหน้าที่ตามลำดับขั้น

  12. ปฏิบัติอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย

 

สวัสดิการและสิทธิประโยชน์

 

  1. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ

    • กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

    • พระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526  และที่แก้ไขเพิ่มเติม

    • ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2550

  2. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ

การอนุมัติเดินทางไปราชการ  ผู้มีอำนาจอนุมัติให้เดินทางไปราชการ  อนุมัติระยะเวลาในการเดินทางล่วงหน้า  หรือระยะเวลาหลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติราชการได้ตามความจำเป็น

  1. การนับเวลาเดินทางไปราชการเพื่อคำนวณเบี้ยเลี้ยง กรณีพักค้าง

    • ให้นับ 24 ชั่วโมงเป็น  1  วัน

    • ถ้าไม่ถึง 24 ชั่วโมงหรือเกิน  24  ชั่วโมง  และส่วนที่ไม่ถึงหรือเกิน  24  ชั่วโมง  นับได้เกิน  12  ชั่วโง  ให้ถือเป็น  1 วัน

  2. การนับเวลาเดินทางไปราชการเพื่อคำนวณเบี้ยเลี้ยงเดินทาง กรณีไม่พักค้าง

    • หากนับได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงและส่วนที่ไม่ถึงนับได้เกิน  12  ชั่วโมง  ให้ถือเป็น  1วัน

    • หากนับได้ไม่เกิน 12 ชั่วโมง  แต่เกิน  6  ชั่วโมงขึ้นไป  ให้ถือเป็นครึ่งวัน

  3. การนับเวลาเดินทางไปราชการเพื่อคำนวณเบี้ยเลี้ยงเดินทาง

  4. กรณีลากิจหรือลาพักผ่อนก่อนปฏิบัติราชการ ให้นับเวลาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติราชการเป็นต้นไป

  5. กรณีลากิจหรือลาพักผ่อนหลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติราชการ ให้ถือว่าสิทธิในการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงเดินทางสิ้นสุดลงเมื่อสิ้นสุดเวลาการปฏิบัติราชการ

  6. หลักเกณฑ์การเบิกค่าเช่าที่พักในประเทศ

 

การเบิกค่าพาหนะ

 

  1. โดยปกติให้ใช้ยานพาหนะประจำทางและให้เบิกค่าพาหนะโดยประหยัด

  2. กรณีไม่มียานพาหนะประจำทาง หรือมีแต่ต้องการความรวดเร็ว  เพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ  ให้

ใช้ยานพาหนะอื่นได้  แต่ต้องชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นไว้ในหลักฐานขอเบิกค่าพาหนะนั้น

  1. ข้าราชการระดับ 6  ขึ้นไป  เบิกค่าพาหนะรับจ้างได้  ในกรณีต่อไปนี้

    • การเดินทางไป-กลับ ระหว่างสถานที่อยู่ ที่พัก  หรือสถานที่ปฏิบัติราชการกับสถานี

ยานพาหนะประจำทาง  หรือสถานที่จัดพาหนะที่ใช้เดินทางภายในเขตจังหวัดเดียวกัน

  • การเดินทางไป-กลับ ระหว่างสถานที่อยู่ ที่พัก  กับสถานที่ปฏิบัติราชการภายในเขตจังหวัด

เดียวกัน  วันละไม่เกิน  2  เที่ยว

  • การเดินทางไปราชการในเขตกรุงเทพมหานคร กรณีเป็นการเดินทางข้ามเขตจังหวัด ให้เบิก

ตามอัตราที่กระทรวงการคลังกำหนด  คือ  ให้เบิกตามที่จ่ายจริง  ดังนี้  ระหว่างกรุงเทพมหานครกับเขตจังหวัดติดต่อกรุงเทพมหานคร  ไม่เกินเที่ยวล่ะ  400  บาท  เดินทางข้ามเขตจังหวัดอื่นนอกเหนือกรณีดังกล่าวข้างต้นไม่เกินเที่ยวละ  300  บาท

  • ผู้ไม่มีสิทธิเบิก ถ้าต้องนำสัมภาระในการเดินทาง หรือสิ่งของเครื่องใช้ของทางราชการไปด้วย 

และเป็นเหตุให้ไม่สะดวกที่จะเดินทางโดยยานพาหนะประจำทาง  ให้เบิกค่าพาหนะรับจ้างได้(โดยแสดงเหตุผลและความจำเป็นไว้ในรายงานเดินทาง)

  • การเดินทางล่วงหน้า หรือไม่สามารถกลับเมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติราชการเพราะมีเหตุส่วนตัว

(ลากิจ  -  ลาพักผ่อนไว้)  ให้เบิกค่าพาหนะเท่าที่จ่ายจริงตามเส้นทางที่ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปราชการ  กรณีมีการเดินทางนอกเส้นทางในระหว่างการลานั้น  ให้เบิกค่าพาหนะได้เท่าที่จ่ายจริงโดยไม่เกินอัตราตามเส้นทางที่ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปราชการ

  • การใช้ยานพาหนะส่วนตัว (ให้ขออนุญาตและได้รับอนุญาตแล้ว) ให้ได้รับเงินชดเชย  คือ

รถยนต์กิโลเมตรละ  4  บาท

 

ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม

 

          การฝึกอบรม  หมายถึง  การอบรม  ประชุม/สัมมนา  (วิชาการเชิงปฏิบัติการ)  บรรยายพิเศษ  ฝึกงาน  ดูงาน  การฝึกอบรม  ประกอบด้วย

  1. หลักการและเหตุผล

  2. โครงการ/หลักสูตร

  3. ระยะเวลาจัดที่แน่นอน

  4. เพื่อพัฒนาหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน

 

ค่ารักษาพยาบาล

 

          ค่ารักษาพยาบาล  หมายถึง  เงินที่สถานพยาบาลเรียกเก็บในการรักษาพยาบาลเพื่อให้ร่างกายกลับสู่สภาวะปกติ  (ไม่ใช่เป็นการป้องกันหรือเพื่อความสวยงาม)

  1. ระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    • พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2523  และแก้ไขเพิ่มเติม( 8  ฉบับ)

    • ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2545

  2. ผู้ที่มีสิทธิรับเงินค่ารักษาพยาบาล คือ  ผู้มีสิทธและบุคคลในครอบครัว

    • บิดา

    • มารดา

    • คู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย

    • บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือบรรลุนิติภาวะแล้ว  แต่เป็นคนไร้ความสามารถ  หรือเสมือนคนไร้ความสามารถ(ศาลสั่ง)  ไม่รวมบุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งได้ยกเป็นบุตรบุญธรรมบุคคลอื่นแล้ว

  3. ผู้มีสิทธิ หมายถึง  ข้าราชการ  ลูกจ้างประจำ  ผุ้รับเบี้ยหวัดบำนาญ  และลูกจ้างชาวต่างประเทศซึ่งได้รับค่าจ้างจากเงินงบประมาณ

ค่ารักษาพยาบาบ  แบ่งเป็น  2  ประเภท

ประเภทไข้นอก  หมายถึง  เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของทางราชการโดยไม่ได้นอนพัก

รักษาตัว  นำใบเสร็จรับเงินมาเบิกจ่าย  ไม่เกิน  1  ปี  นับจากวันที่จ่ายเงิน

ประเภทไข้ใน  หมายถึง  เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของเอกชน หรือสถานพยาบาลของทาง

ราชการ  สถานพยาบาลเอกชน  ใช้ใบเสร็จรับเงินนำมาเบิกจ่ายเงิน  พร้อมให้แพทย์รับรอง  “หากผู้ป่วยมิได้เจ้ารับการรักษาพยาบาลในทันทีทันใด  อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต”  และสถานพยาบาลทางราชการ  ใช้หนังสือรับรองสิทธิ  กรณียังไม่ได้เบิกจ่ายตรง

 

การศึกษาบุตร

 

          ค่าการศึกษาของบุตร  หมายความว่า  เงินบำรุงการศึกษา  หรือเงินค่าเล่าเรียน  หรือเงินอื่นใดที่สถานศึกษาเรียกเก็บและรัฐออกให้เป็นสวัสดิการกับข้าราชการผู้มีสิทธิ

  1. ระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    • พระราชราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. 2523

    • ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. 2547

    • หนังสือเวียนกรมบัญชีกลาง กค 3/ว  161  ลงวันที่  13  พฤษภาคม  2552  เรื่อง  ประเภทและอัตราเงินบำรุงการศึกษาในสถานศึกษาของทางราชการ  และค่าเล่าเรียนในสถานศึกษาของเอกชน  และกรมบัญชีกลาง  ที่  กค  0422.3/ว  226  ลงวันที่  30  มิถุนายน  2552  เรื่องการเบิกงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษ่าของบุตร

  2. ผู้ที่มีสิทธิรับเงินค่าการศึกษาของบุตร

    • บุตรชอบโดยกฎหมายอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์  ในวันที่  1  พฤษภาคมของทุกปี  ไม่รวมบุตรบุญธรรม  หรือบุตรซึ่งได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมคนอื่นแล้ว

    • ใช้สิทธิเบิกได้ 3 คน  เว้นแต่บุตรคนที่  3  เป็นฝาแฝดสามารถนำมาเบิกได้  4  คน

    • เบิกเงินสวัสดิการเกี่ยวกับศึกษาบุตรภายใน 1 ปี  นับตั้งแต่วันเปิดภาคเรียนของแต่ละภาค

จำนวนเงินที่เบิกได้

  1. ระดับอนุบาลหรือเทียบเท่า เบิกได้ปีละไม่เกิน  4,650  บาท

  2. ระดับประถมศึกษาหรือเทียบเท่า เบิกได้ปีละไม่เกิน  3,200  บาท

  3. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น/มัธยมศึกษาตอนปลาย/หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) หรือเทียบเท่า  เบิกได้ปีละไม่เกิน  3,900  บาท

  4. ระดับอนุปริญญาหรือเทียบเท่า เบิกได้ปีละไม่เกิน  11,000  บาท

ค่าเช่าบ้าน

 

  1. ระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    • พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าช้านข้าราชการ พ.ศ. 2550 

    • ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้าน พ.ศ. 2549

  2. สิทธิการเบิกเงินค่าเช่าบ้าน

    • ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานใหม่ในต่างท้องที่ เว้นแต่

      • ทางราชการได้จัดที่พักอาศัยให้อยู่แล้ว

      • มีเคหสถานเป็นของตนเองหรือคู่สมรส

      • ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานใหม่ในต่างท้องที่ตามคำร้องขอของตนเอง

    • ข้าราชการผู้ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานในท้องที่ที่รับราชการครั้งแรกหรือท้องที่ที่กลับเข้ารับราชการใหม่ ให้มีสิทธิได้รับเงินค่าเช้าบ้าน (พระราชกฤษฎีกาเช่าบ้าน  2550  (ฉบับที่  2)  มาตรา  7)

    • ข้าราชการมีสิทธิได้รับเงินค่าเช่าบ้านตั้งแต่วันที่เช่าอยู่จริง แต่ไม่ก่อนวันที่รายงานตัวเพื่อเข้ารับหน้าที่(พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้าน 2547  มาตรา  14)

    • ข้าราชการซึ่งมีสิทธิได้รับเงินค่าเช่าบ้านได้เช่าซื้อหรือผ่อนชำระเงินกู้เพื่อชำระราคาบ้านที่ค้างชำระอยู่ ในท้องที่ที่ไปประจำสำนักงานใหม่ มีสิทธินำหลักฐานการชำระค่าเช่าซื้อหรือค่าผ่อนชำระเงินกู้ฯ  มาเบิกได้  (พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้าน  2547  มาตรา  17)

 

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)

 

  1. กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    • พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 

มาตรา  3  ในพระราชบัญญัตินี้  (ส่วนที่เกี่ยวข้อง) 

บำนาญ  หมายความว่า  เงินที่จ่ายให้แก่สมาชิกเป็นรายเดือนเมื่อสมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลง

บำเหน็จตกทอด  หมายความว่า  เงินที่จ่ายให้แก่สมาชิก  โดยจ่ายให้ครั้งเดียวเมื่อสมาชิกภาพ

ของสมาชิกสิ้นสุดลง

บำเหน็จตกทอด  หมายความว่า  เงินที่จ่ายให้แก่ทายาทโดยจ่ายให้ครั้งเดียวในกรณีที่สมาชิก

หรือผู้รับบำนาญถึงแก่ความตาย

  • พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 2 )  พ.ศ.  2542

  1. ข้าราชการทุกประเภท (ยกเว้นราชการทางการเมือง)  มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิก  กบข.  ได้แก่  ข้าราชการครู 

ข้าราชการใหม่  ได้แก่  ผู้ซึ่งเข้ารับราชการหรือโอนมาเป็นราชการตั้งแต่วันที่  27  มีนาคม  2540  เป็นต้น  จะต้องเป็นสมาชิก  กบข.  และสะสมเงินเข้ากองทุน  สมาชิกที่จ่ายสะสมเข้ากองทุนในอัตราร้อยละ  3  ของเงินเดือนเป็นประจำทุกเดือน  รัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบให้กับสมาชิกในอัตราร้อยละ  3  ของเงินเดือนเป็นประจำทุกเดือนเช่นเดียวกัน  และจะนำเงินดังกล่าวไปลงทุนหาผลประโยชน์เพื่อจ่ายให้กับสมาชิกเมื่อกอกจากราชการ

ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาว่าด้วยการฌาปนกิจสงเคราะห์เพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา(ช.พ.ค.)

 

          ในระเบียบนี้  ช.พ.ค.  หมายความว่า  การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาการจัดตั้ง  ช.พ.ค.  มีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการกุศลและมีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกได้ทำการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันในการจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัวของสมาชิก  ช.พ.ค.  ที่ถึงแก่กรรมหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัวให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ  ช.พ.ค.  กำหนด

          ครอบครัวของสมาชิก  ช.พ.ค  หมายถึง  บุคคลตามลำดับ  ดังนี้

  1. คู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย  บุตรบุญธรรม  บุตรนอกสมรสที่บิดารับรองแล้ว 

และบิดามารดาของสมาชิก  ช.พ.ค.

  1. ผู้อยู่ในอุปการะอย่างบุตรของสมาชิก ช.พ.ค.

  2. ผู้อุปการะสมาชิก ช.พ.ค.

ผู้มีสิทธิได้รับการสงเคราะห์ตามวรรคหนึ่งยังมีชีวิตอยู่  หรือมีผู้รับมรดกยังไม่ขาดสายแล้วแต่กรณีใน

ลำดับหนึ่งๆ  บุคคลที่อยู่ในลำดับถัดไปไม่มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์ครอบครัวระเบียบนี้

การสงเคราะห์ครอบครัวของสมาชิก  ช.พ.ค.  สำหรับบุตรให้พิจารณาให้บุตรสมาชิก  ช.พ.ค.  ได้รับ

ความช่วยเหลือเป็นเงินทุนสำหรับการศึกษาเล่าเรียนเป็นลำดับแรก

สมาชิก  ช.พ.ค.  ต้องระบุบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหลายคน  เป็นผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์

สมาชิก  ช.พ.ค.  มีหน้าที่ดังต่อไปนี้

  1. ต้องปฏิบัติตามระเบียบนี้

  2. ส่งเงินสงเคราะห์รายศพ เมื่อสมาชิก  ช.พ.ค.  อื่นถึงแก่กรรมศพละหนึ่งบาทภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้

  3. สมาชิก ช.พ.ค.  ที่เป็นข้าราชการประจำ  ข้าราชการบำนาญและผู้ที่มีเงินเดือนหรือรายได้  รายเดือน  ต้องยินยอมให้เจ้าหน้าที่ผู้จ่ายเงินเดือนหรือเงินบำนาญเป็นผู้หักเงินเพื่อชำระเงินสงเคราะห์รายศพ  ณ  ที่จ่ายตามประกาศรายชื่อสมาชิก  ช.พ.ค.  ที่ถึงแก่กรรม

 

คำจำกัดความ

 

          แผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ  หมายถึง  แผนแสดงรายละเอียดการปฎิบัติงาน  และแสดงรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายตามแผนการปฏิบัติงานของโรงเรียนบ้านห้วงปลาไหล “สิงหะวิทยา”

ในรอบปีงบประมาณ

          การใช้จ่ายงบประมาณ  หมายถึง  การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายของโรงเรียนบ้านห้วงปลาไหล “สิงหะวิทยา” เพื่อดำเนินตามแผนการปฏิบัติงานในรอบปี

          การจัดสรรงบประมาณ  หมายถึง  การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี  หรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม  ให้ส่วนราชการใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพัน  ทั้งนี้  อาจดำเนินการโดยใช้การอนุมัติเงินประจำงวดหรือโดยวิธีการอื่นใดตามที่สำนักงบประมาณกำหนด

          เป้าหมายยุทธศาสตร์  หมายถึง ผลสัมฤทธิ์ที่การใช้จ่ายงบประมาณต้องการจะให้เกิดต่อนักเรียน  บุคลากรโรงเรียนบ้านห้วงปลาไหล “สิงหะวิทยา”

แผนการปฏิบัติงาน   หมายถึง  แผนการปฏิบัติงานของโรงเรียนบ้านห้วงปลาไหล “สิงหะวิทยา”  ในรอบปีงบประมาณ

แผนการใช้จ่ายงบประมาณ   หมายถึง  แผนแสดงรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายสำหรับโรงเรียนบ้านห้วงปลาไหล “สิงหะวิทยา”   เพื่อดำเนินงานตามแผนการปฏิบัติงานในรอบปีงบประมาณ

          โครงการ   หมายถึง  โครงการที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้จ่ายเงินเป็นไปตามในระหว่างปีงบประมาณ

          งบรายจ่าย   หมายถึง  กลุ่มวัตถุประสงค์ของรายจ่าย  ที่กำหนดให้จ่ายตามหลักการจำแนกประเภทรายจ่ายตามงบประมาณ

          จำแนกงบรายจ่ายตามหลักจำแนกประเภทงบประมาณตามงบรายจ่าย ดังนี้

          งบบุคลากร หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานบุคคลภาครัฐ ได้แก่ รายจ่ายในลักษณะเงินเดือน ค่าจ้างประจำ ค่าจ้างชั่วคราว และค่าตอบแทนพนักงานราชการ รวมถึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นในลักษณะดังกล่าว

งบดำเนินงาน หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจำ ได้แก่รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ ค่าสาธารณูปโภค

          งบลงทุน หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการลงทุน ได้แก่ รายจ่ายในลักษณะ ค่าครุภัณฑ์ ค่าที่ดิน และสิ่งก่อสร้าง

          งบเงินอุดหนุน หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเป็นค่าบำรุง หรือเพื่อช่วยเหลือสนุบสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หรือหน่วยงานของรัฐซึ่งมิใช่ส่วนราชการส่วนกลางตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน หน่วยงานในกำกับของรัฐองค์การมหาชน รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาตำบล องค์การระหว่างประเทศบิติบุคคล   เอกชนหรือกิจการอันเป็นสาธารณประโยชน์ รวมถึง เงินอุดหนุนงบพระมหากษัตริย์            เงินอุดหนุนการศาสนา และรายจ่ายที่สำนักงบประมาณกำหนดให้จ่ายในงบรายจ่ายนี้

          งบรายจ่ายอื่น หมายถึง รายจ่ายที่ไม่เข้าลักษณะประเภทงบรายจ่ายใดงบรายจ่ายหนึ่ง หรือรายจ่ายที่                สำนักงบประมาณกำหนดให้ใช้จ่ายในงบรายจ่ายนี้ เช่น

  • เงินราชการลับ

  • เงินค่าปรับที่จ่ายคืนให้แก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง

  • ค่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษา วิจัย ประเมินผล หรือพัฒนาระบบต่างๆซึ่งมิใช่เพื่อการจัดหา หรือปรับปรุงครุภัณฑ์ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้าง

  • ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว

  • ค่าใช้จ่ายสำหรับหน่วยงานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ (ส่วนราชการ)

  • ค่าใช้จ่ายเพื่อชำระหนี้เงินกู้

  • ค่าใช้จ่ายสำหรับกองทุน หรือเงินทุนหมุนเวียน

 

 

 

 

 

หน้าที่ความรับผิดชอบ         

 

กลุ่มการบริหารงบประมาณ

 นางชณาพรรณ  งามสม ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มบริหารงบประมาณ มีหน้าที่ดูแล กำกับติดตาม กลั่นกรอง อำนวยความสะดวก ให้คำแนะนำปรึกษาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในกลุ่มบริหารงบประมาณ ตามขอบข่ายและภารกิจการบริหารงบประมาณ ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดระบบบริหารองค์กรการประสานงานและให้บริการสนับสนุน ส่งเสริมให้ฝ่ายบริหารงบประมาณต่างๆ ในโรงเรียนสามารถบริหารจัดการและดำเนินการตามบทบาทภารกิจ อำนาจหน้าที่ด้วยความเรียบร้อยตลอดจนสนับสนุนและให้บริการข้อมูล ข่าวสาร เอกสาร สื่อ อุปกรณ์ทางการศึกษาและทรัพยากรที่ใช้ในการจัดการศึกษาแก่เจ้าหน้าที่ของแต่ละฝ่ายงานเพื่อให้ฝ่ายงานบริหารจัดการได้อย่างสะดวกคล่องตัวมีคุณภาพและเกิดประสิทธิผล

ขอบข่ายกลุ่มการบริหารงบประมาณ   มีดังนี้

  1. การจัดทำแผนงบประมาณและคำขอตั้งงบประมาณเพื่อเสนอต่อเลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ผู้รับผิดชอบ  นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  จัดทำข้อมูลสารสนเทศทางการเงินของสถานศึกษา ได้แก่ แผนชั้นเรียน ข้อมูลครูนักเรียน และสิ่งอำนวยความสะดวกของสถานศึกษา โดยความร่วมมือของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

2)  จัดทำกรอบงบประมาณรายจ่ายล่วงหน้า  และแผนงบประมาณ

3)  เสนอแผนงบประมาณขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อใช้เป็นคำขอตั้งงบประมาณต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

  1. การจัดทำแผนปฏิบัติการใช้จ่ายเงิน ตามที่ได้รับจัดสรรงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยตรง

ผู้รับผิดชอบ  นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานและผู้รับผิดชอบโครงการฯ  ดังนี้

1)  จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีและแผนการใช้จ่ายงบประมาณภายใต้ความร่วมมือของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

2)  ขอความเห็นชอบแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

  1. การอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับจัดสรร

ผู้รับผิดชอบ  นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบเสนอโครงการดังนี้

- ผู้อำนวยการสถานศึกษาอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณตามงาน/โครงการที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปี และแผนการใช้จ่ายเงินภายใต้ความร่วมมือของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

  1. การขอโอนและการขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณ

ผู้รับผิดชอบ   นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  ตรวจสอบรายละเอียดรายการงบประมาณที่จำเป็นต้องขอโอนหรือเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับสถานศึกษาประเภทที่ 1 เสนอความเห็นชอบคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน แล้วเสนอ     ขอโอนหรือเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อดำเนินการต่อไป

  1. การรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณ

ผู้รับผิดชอบ   นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  รายงานผลการดำเนินงาน ผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี ไปยังสำนักงานเขต            พื้นที่การศึกษา

  1. การตรวจสอบ ติดตามและรายงานการใช้งบประมาณ

ผู้รับผิดชอบ  นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  จัดการให้มีการตรวจสอบและติดตามให้ กลุ่ม ฝ่ายงาน ในสถานศึกษา รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณตามแบบที่สำนักงบประมาณกำหนด และจัดส่งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกไตรมาส ภายในระยะเวลาที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำหนด

2)  จัดทำรายงานประจำปีที่แสดงถึงความสำเร็จในการปฏิบัติงาน และจัดส่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภายในระยะเวลาที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำหนด

  1. การตรวจสอบ ติดตามและรายงานการใช้ผลผลิตจากงบประมาณ

ผู้รับผิดชอบ นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  ประเมินคุณภาพการปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย

2)  วางแผนประเมินประสิทธิภาพ และประสิทธิผลการดำเนินงานของสถานศึกษา

3)  วิเคราะห์และประเมินความมีประสิทธิภาพ ประหยัด และความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากรของหน่วยงานในสถานศึกษา

  1. การระดมทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา

ผู้รับผิดชอบ  นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  วางแผน รณรงค์ ส่งเสริมการระดมทุนการศึกษาและทุนเพื่อการพัฒนาการศึกษาให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล คุ้มค่า และมีความโปร่งใส

2)  จัดทำข้อมูลสารสนเทศ และระบบการรับจ่ายทุนการศึกษาและเพื่อการพัฒนาการศึกษาให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล คุ้มค่า และมีความโปร่งใส

3)  สรุป รายงาน เผยแพร่ และเชิดชูเกียรติผู้สนับสนุนทุนการศึกษาและทุนเพื่อการพัฒนาสถานศึกษา โดยความชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

 

  1. การบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อการศึกษา

ผู้รับผิดชอบ นางชณาพรรณ  งามสม   หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  จัดทำรายการทรัพยากรเพื่อเป็นสารสนเทศได้แก่แหล่งเรียนรู้ภายในสถานศึกษา แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นทั้งที่เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น แหล่งเรียนรู้ที่เป็นสถานประกอบการ เพื่อการรับรู้ของบุคลากรในสถานศึกษา นักเรียนและบุคคลทั่วไปจำได้เกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกันในการจัดการศึกษา

2)  วางระบบหรือกำหนดแนวปฏิบัติการใช้ทรัพยากรร่วมกันกับบุคคล หน่วยงานรัฐบาลและเอกชนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

3)  กระตุ้นให้บุคคลในสถานศึกษาร่วมใช้ทรัพยากรภายในและภายนอก รวมทั้งให้บริการการใช้ทรัพยากรภายในเพื่อประโยชน์ต่อการเรียนรู้และส่งเสริมการศึกษาในชุมชน

4)  ประสานความร่วมมือกับผู้รับผิดชอบแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรที่มนุษย์สร้างทรัพยากรบุคคลที่มีศักยภาพให้การสนับสนุนการจัดการศึกษา

5)  ดำเนินการเชิดชูเกียรติบุคคลและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่สนับสนุนการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อการศึกษาของสถานศึกษา

  1. การวางแผนพัสดุ

ผู้รับผิดชอบ  นางสาวภัสรา  มีรัตน์   หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  การวางแผนพัสดุล่วงหน้า 3 ปี ให้ดำเนินการตามกระบวนการของการวางแผนงบประมาณ

2)  การจัดทำแผนการจัดหาพัสดุให้ฝ่ายที่ทำหน้าที่จัดซื้อจัดจ้างเป็นผู้ดำเนินการ โดยให้ฝ่าย           ที่ต้องการใช้พัสดุ จัดทำรายละเอียดพัสดุที่ต้องการ คือรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณ ราคา คุณลักษณะเฉพาะ หรือแบบรูปรายการและระยะเวลาที่ต้องการนี้ต้องเป็นไปตามแผนปฏิบัติการประจำปี (แผนปฏิบัติงาน) และตามที่ระบุไว้ในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ส่งให้ฝ่ายที่ทำหน้าที่จัดซื้อจัดจ้างเพื่อจัดทำแผนการจัดหาพัสดุ

3)  ฝ่ายที่จัดทำแผนการจัดหาพัสดุทำการรวบรวมข้อมูลรายละเอียดจากฝ่ายที่ต้องการใช้พัสดุโดยมีการสอบทานกับแผนปฏิบัติงานและเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี และความเหมาะสมของวิธีการจัดหาว่าควรเป็นการซื้อ การเช่าหรือการจัดทำเองแล้วจำนำข้อมูลที่สอบทานแล้วมาจัดทำแผนการจัดหาพัสดุในภาพรวมของสถานศึกษา  

  1. การกำหนดแบบรูปรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะของครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้างที่ใช้เงินงบประมาณเพื่อสนองต่อเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ผู้รับผิดชอบ  นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  กำหนดแบบรูปรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะเพื่อประกอบการขอตั้งงบประมาณ ส่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

2)  กรณีที่เป็นการจัดหาจากเงินนอกงบประมาณให้กำหนดแบบรูปรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะได้โดยให้พิจารณาจากแบบมาตรฐานก่อนหากไม่เหมาะสมก็ให้กำหนดตามความต้องการโดยยึดหลักความโปร่งใส เป็นธรรมและเป็นประโยชน์กับทางราชการ

  1. การจัดหาพัสดุ

ผู้รับผิดชอบ  นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  การจัดหาพัสดุถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุของส่วนราชการและคำสั่งมอบอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

2)  การจัดทำพัสดุถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาว่าด้วยการให้สถานศึกษารับจัดทำรับบริการ

 

  1. การควบคุมดูแล บำรุงรักษาและจำหน่ายพัสดุ

ผู้รับผิดชอบ  นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  จัดทำทะเบียนคุมทรัพย์สินและบัญชีวัสดุไม่ว่าจะได้มาด้วยการจัดหาหรือการรับบริจาค

2)  ควบคุมพัสดุให้อยู่ในสภาพพร้อมการใช้งาน

3)  ตรวจสอบพัสดุประจำปี และให้มีการจำหน่ายพัสดุที่ชำรุด เสื่อมสภาพหรือไม่ใช้ในราชการอีกต่อไป

4)  พัสดุที่เป็นที่ดินหรือสิ่งก่อสร้าง กรณีที่ได้มาด้วยเงินงบประมาณให้ดำเนินการขึ้นทะเบียน    เป็นราชพัสดุ กรณีที่ได้มาจากการรับบริจาคหรือจากเงินรายได้สถานศึกษาให้ขึ้นทะเบียนเป็นกรรมสิทธิ์ของสถานศึกษา

  1. การรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการจ่ายเงิน

ผู้รับผิดชอบ นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  การปฏิบัติเกี่ยวกับการรับเงิน และการจ่ายเงินให้ปฏิบัติตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนดคือ ระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลังในหน้าที่ของอำเภอ พ.ศ. 2520  โดยสถานศึกษาสามารถกำหนดวิธีปฏิบัติเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสมแต่ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบดังกล่าว

2)  การปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรักษาเงินให้ปฏิบัติตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด             คือระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลังในส่วนของราชการ พ.ศ. 2520 โดยอนุโลม

  1. การนำเงินส่งคลัง

ผู้รับผิดชอบ  นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  การนำเงินส่งคลังให้นำส่งต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลังในหน้าที่ของอำเภอพ.ศ. 2520   หากนำส่งเป็นเงินสดให้ตั้งคณะกรรมการนำส่งเงินด้วย

 

  1. การจัดทำบัญชีการเงิน

ผู้รับผิดชอบ นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  ให้จัดทำบัญชีการเงินตามระบบที่เคยจัดทำอยู่เดิม คือ ตามระบบที่กำหนดไว้ในคู่มือการบัญชีหน่วยงานย่อย พ.ศ. 2515 หรือตามระบบการควบคุมการเงินของหน่วยงานย่อย พ.ศ. 2544  แล้ว       แต่กรณี

  1. การจัดทำรายงานทางการเงินและงบการเงิน

ผู้รับผิดชอบ  นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  จัดทำรายงานตามที่กำหนดในคู่มือการบัญชีสำหรับหน่วยงานย่อย พ.ศ. 2515 หรือ ตามระบบการควบคุมการเงินของหน่วยงานย่อยพ.ศ. 2515 แล้วแต่กรณี

2)  จัดทำรายงานการรับจ่ายเงินรายได้สถานศึกษา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด คือ ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานว่าด้วยหลักเกณฑ์ อัตราและวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคลรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการของสถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคลในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา

 

  1. 18. การจัดทำและจัดหาแบบพิมพ์บัญชี ทะเบียนและรายงาน

ผู้รับผิดชอบ  นางสาวภัสรา  มีรัตน์  หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานดังนี้

1)  แบบพิมพ์บัญชี ทะเบียนและแบบรายงานให้จัดทำตามแบบที่กำหนดในคู่มือการบัญชีสำหรับหน่วยงานย่อย พ.ศ. 2515 หรือตามระบบการควบคุมการเงินของหน่วยงานย่อย พ.ศ. 2544

 

 

 

 

หน้าต่างเข้าสู่ระบบ